Juvelook คืออะไร?
Juvelook เป็น Poly D,L-Lactic Acid (PDLLA) Skin Booster ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปที่เน้นเติมเต็มแบบชั่วคราว เพราะ Juvelook ทำงานโดยช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาเอง ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานกว่า
จุดเด่นของ Juvelook
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้น
- ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ลดเลือนหลุมสิวและริ้วรอย
- เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เป็นก้อน ไม่ดูบวมผิดธรรมชาติ
- เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบค่อยเป็นค่อยไป และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
Juvelook รักษาหลุมสิวได้จริงหรือ?
หลักการทำงานของ Juvelook กับหลุมสิว
หลุมสิวเกิดจาก การทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวลึก ทำให้คอลลาเจนถูกทำลาย Juvelook ช่วยแก้ปัญหานี้โดย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน – ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- เพิ่มความหนาแน่นของผิว – ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ลดรอยบุ๋มและร่องลึก
- ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น – ลดโอกาสเกิดหลุมสิวใหม่ในอนาคต
Juvelook ไม่ได้ทำให้หลุมสิวหายไปทันทีแบบฟิลเลอร์ แต่จะค่อยๆ ฟื้นฟูผิวให้ดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน จึงเริ่มเห็นผลชัดเจน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
เปรียบเทียบ Juvelook กับวิธีรักษาหลุมสิวอื่นๆ
Juvelook
- รักษาหลุมสิวด้วยวิธีกระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวจากภายใน
- ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป
- ระยะเวลาเห็นผล 1-3 เดือน
ฟิลเลอร์ HA
- รักษาหลุมสิวด้วยการเติมเต็มใต้ผิวให้ดูเรียบเนียนทันที
- เห็นผลเร็ว แต่ไม่ช่วยสร้างคอลลาเจน
- เห็นผลทันที (แต่สลายภายใน 6-12 เดือน)
Subcision
- รักษาหลุมสิวด้วยการตัดพังผืดใต้หลุมสิวเพื่อให้ผิวดันตัวขึ้น
- ดีสำหรับหลุมสิวแบบ Rolling Scar
- ระยะเวลาเห็นผล 1-3 เดือน
เลเซอร์ (เช่น CO2, Fractional)
- รักษาหลุมสิวด้วยการทำลายผิวเก่าเพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่
- ช่วยให้ผิวเรียบขึ้นแต่ต้องทำหลายครั้ง
- ระยะเวลาเห็นผล 3-6 เดือน
TCA Cross
- รักษาหลุมสิวด้วยการใช้กรดผลัดผิวเฉพาะจุด
- เหมาะกับหลุมสิวลึก (Ice Pick Scar)
- ระยะเวลาเห็นผล 3-6 เดือน
Juvelook เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเป็นธรรมชาติและผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน
หากต้องการผลลัพธ์เร็ว ฟิลเลอร์อาจเหมาะกว่า แต่ไม่ได้ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
Juvelook เหมาะกับใคร?
- คนที่มี หลุมสิวแบบ Rolling Scar หรือ Boxcar Scar (หลุมสิวตื้นถึงปานกลาง)
- คนที่ต้องการ ผิวฟื้นฟูอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่อยากฉีดฟิลเลอร์ที่ดูบวม
- คนที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดโอกาสเกิดรอยบุ๋มใหม่
- คนที่เคยทำเลเซอร์แล้วอยากเพิ่มผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น
Juvelook อาจไม่เหมาะกับ
- คนที่ต้องการเห็นผลทันที (เพราะต้องใช้เวลาสร้างคอลลาเจน)
- คนที่มีหลุมสิวลึกมากแบบ Ice Pick Scar (อาจต้องทำร่วมกับ TCA Cross หรือ Subcision)
- คนที่แพ้สาร PDLLA (แม้ว่าพบได้น้อยมาก)
Juvelook ฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล?
ปกติแพทย์จะแนะนำให้ฉีด 2-3 ครั้ง ห่างกันประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้ผิวสร้างคอลลาเจนได้เต็มที่ หลังจากนั้นผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี
การดูแลหลังฉีด Juvelook
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดในช่วง 3-5 วันแรก
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
สรุป
Juvelook เป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูหลุมสิว โดยช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ต้องใช้เวลาและเหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาหลุมสิวระยะยาว มากกว่าการเติมเต็มแบบชั่วคราว