การรู้และเข้าใจโรคมะเร็งเต้านมเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคน ไม่เพียงแต่ผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ชายและคนครอบครัว เพื่อให้สามารถร่วมมือในการป้องกันและเผชิญหน้ากับโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม
สาเหตุ
- มีประวัติคนในครอบครัวเคยป่วยเป็นมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะหากมีการพบพาหะยีน BRCA1 และ BRCA2
- ผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือนเร็ว หรือวัยทอง
- การทานยาฮอร์โมนติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เช่น ยาคุมกำเนิด หรือทานยาฮอร์โมนเพื่อรักษาอาการวัยทอง
- ผู้หญิงที่ไม่เคยตั้งครรภ์ หรือตั้งครรภ์และคลอดครั้งแรกเมื่ออายุเกิน 30 ปี มีความเสี่ยงสูงกว่าปกติ
- การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ทานอาหารที่มีไขมันสูง หรือขาดการออกกำลังกาย
- การฉายรังสีเป็นจำนวนมากบริเวณเต้านม เช่น จากการตรวจเช็ครักษาอื่น ๆ
การตรวจและการรักษา
- การตรวจ
- ตรวจด้วยตนเอง ผู้หญิงควรตรวจเต้านมด้วยตนเองประจำทุกเดือน โดยค้นหาก้อนเนื้อที่ผิดปกติ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง
- การตรวจด้วยการสแกน เครื่องแมมโมแกรมคือเครื่องมือสำหรับตรวจสแกนเต้านม ทำให้สามารถตรวจพบเนื้องอกขนาดเล็ก ๆ ได้ ควรเริ่มต้นตั้งแต่วัย 40 ปีขึ้นไป หรือตามคำแนะนำของแพทย์
- การตรวจด้วยการอัลตราซาวนด์ ใช้ในกรณีที่ต้องการตรวจสอบบริเวณเฉพาะ หรือต้องการตรวจเพิ่มเติมจากการตรวจสแกน
- การรักษา
- การผ่าตัด มีวิธีต่าง ๆ เช่น การตัดเฉพาะบริเวณที่มีเนื้องอก การตัดเต้านมทั้งหมด
- การรักษาด้วยรังสี คือการใช้รังสีในการฆ่าเซลล์มะเร็ง โดยไม่ต้องผ่าตัด
- การรักษาด้วยยา มีสองประเภทหลัก ๆ ได้แก่ คีโมเธอราปีและฮอร์โมนเธอราปี
- บิโอโลจีเทอราปี เป็นการรักษาโดยใช้ยาที่กำจัดหรือยับยั้งเซลล์มะเร็งโดยตรง
- การรักษาเสริม เช่น การฝึกฟื้นฟู การบำบัดด้วยการเต้น และการดูแลเชิงจิตวิทยา
การป้องกัน
- ตรวจดูการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติในเต้านมด้วยตนเองทุกเดือน
- สำหรับผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ควรไปตรวจแมมโมแกรมปีละครั้ง
- เน้นการทานผักและผลไม้ ลดการทานไขมันอิ่มตัว
- ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น การเดิน วิ่ง หรือกิจกรรมที่ชอบ
- หากต้องการใช้ยาฮอร์โมนในระยะยาว ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยง
- หลีกเลี่ยงการฉายรังสีในเต้านมถ้าไม่จำเป็น
- บางกรณี อาจได้รับการแนะนำให้ใช้ยาเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรค
กล่าวโดยสรุป
แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันโรคมะเร็งเต้านมได้ 100% แต่การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้